ทุนนิยม Fundamentals Explained
คอมมิวนิสต์เป็นทั้งอุดมการณ์และรูปแบบของรัฐบาลต่างจากลัทธิสังคมนิยม ตามอุดมการณ์ มันคาดการณ์ถึงการก่อตั้งเผด็จการที่ควบคุมโดยชนชั้นกรรมาชีพชนชั้นกรรมกรที่จัดตั้งขึ้นผ่านการปฏิวัติที่รุนแรงและการหายตัวไปของชนชั้นและรัฐทางสังคมและเศรษฐกิจในที่สุด ในฐานะรูปแบบของรัฐบาล ลัทธิคอมมิวนิสต์มีหลักการเทียบเท่าเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพและในทางปฏิบัติกับเผด็จการคอมมิวนิสต์ ในทางตรงกันข้าม สังคมนิยมไม่ได้ผูกติดอยู่กับอุดมการณ์ใดโดยเฉพาะ สันนิษฐานว่าดำรงอยู่ของรัฐและเข้ากันได้กับประชาธิปไตยและอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างสันติทำความเข้าใจจิตสำนึกแบบคลาสของคาร์ล มาร์กซ์และจิตสำนึกผิดๆ
ทุนนิยม ถูกพูดถึงในเชิงวิพากษ์มากขึ้น พร้อมๆ กับการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยคนรุ่นใหม่ที่เข้มข้นขึ้น ผู้คนพยายามเชื่อมโยงหาต้นสายปลายเหตุของความล้มเหลวของการเมืองไทย จนสาวไปเจอหนึ่งใน (อีกหลายๆ) ปัญหาคือทุนนิยมผูกขาด
ผมขอปรับให้คิดต่อว่า “จงมองทุนนิยมในแง่ร้ายด้วยสติปัญญา และสร้างทุนนิยมที่ปรารถนาด้วยเจตจำนง”
ผู้ที่ใช้ ระบบทุนนิยม ทุกวันนี้เราจึงเห็นการพยายามลดปัญหาดังกล่าว อย่างการเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อคำสัญญาที่ทุนนิยมให้ไว้ว่าอนาคตที่ดีกว่ากำลังรอเราอยู่ (ในแง่ของตัวเงิน)
ตัวอย่างเช่น ทุนนิยมเสรี แบบอเมริกันและอังกฤษ อวัยวะภายในจะมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านกลไกตลาดเป็นหลัก เอกชนแข่งขันสูงทั้งในตลาดสินค้าบริการและตลาดแรงงาน การต่อรองราคาและค่าจ้างค่อนข้างเสรี และทำได้ระดับปัจเจก
“ทุนนิยมผู้มีส่วนได้เสีย” เป็นรูปแบบหนึ่งของทุนนิยมซึ่งบริษัทต่างๆ ยังคงแสวงหากำไรอยู่ แต่นอกเหนือไปจากกำไรแล้วก็คือการสร้างมูลค่าในระยะยาวโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดและสังคมโดยรวมทั้งหมด วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของทุนนิยมผู้มีส่วนได้เสีย คือ การสร้างมูลค่าของธุรกิจในระยะยาว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ ลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น
ตำแหน่งประธานาธิบดีของโรนัลด์ เรแกนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นยุคแห่งการยกเลิกกฎระเบียบ กฎระเบียบส่วนใหญ่ที่สร้างขึ้นระหว่างตำแหน่งประธานาธิบดีของแฟรงคลิน เดลาโน รูสเวลต์ ผ่านการออกกฎหมาย หน่วยงานบริหาร และสวัสดิการสังคม ถูกทำลายลงในช่วงรัชสมัยของเรแกน กระบวนการนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในทศวรรษที่จะมาถึง และยังคงเผยออกมาจนถึงทุกวันนี้ แนวทางเศรษฐศาสตร์ที่เรแกนทำให้เป็นที่นิยม และมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ร่วมสมัยชาวอังกฤษของเขาเป็นที่รู้จักในชื่อเสรีนิยมใหม่ ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่าเพราะเป็นรูปแบบใหม่ของเศรษฐศาสตร์เสรี หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การหวนคืนสู่อุดมการณ์ตลาดเสรี เรแกนดูแลการตัดโครงการสวัสดิการสังคม การลดภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางและภาษีจากรายได้ของบริษัท และการยกเลิกข้อบังคับด้านการผลิต การค้า และการเงิน
พอเราสนใจแต่ตัวเลข แต่ไม่สนใจทิศทางกับรายละเอียด
บริษัท รู้ว่าผู้บริโภคเป้าหมายคือคนที่มีโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว.
แด่สังคมที่ (เหมือนจะ) เสมอภาคบนนิติธรรมที่หักงอ : จากความเสมอภาคทางเพศสู่ภาพของสังคมที่ไม่เสมอภาคบนหลักนิติธรรม
ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบภายในระบบทุนนิยมที่แตกต่างกันทำให้ทุนนิยมมีหลายรูปแบบ โดยที่ความแตกต่างดังกล่าวเป็นผลจากกระบวนการต่อสู้ ต่อรอง และประนีประนอมทางการเมือง
จุดสำคัญที่ต้องตระหนักก็คือ การแบ่งปันผลของการเติบโตของเศรษฐกิจไปสู่กลุ่มคนต่างๆ นั้น จะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่สังคมมี ซึ่งผู้ที่ควบคุมว่ากฎเกณฑ์ควรเป็นอย่างไร ก็คือ รัฐบาลที่มีหน้าที่ในการเขียนกฎหมายและออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้รัฐบาลสามารถใช้อำนาจที่มีเขียนกฎเกณฑ์หรือออกระเบียบต่างๆ เช่น ภาษี ทุนนิยม เปลี่ยนแปลงการกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มคนต่างๆ พูดง่ายๆ ก็คือ รัฐบาลสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายออกกฎระเบียบที่จะกระทบการกระจายรายได้ในสังคม หมายความว่าผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ตกไปแก่คนแต่ละกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง นายทุน หรือผู้บริโภค สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยการใช้อำนาจของรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลจึงมีบทบาทอย่างสำคัญที่จะแก้ไข หรือลดทอนปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ประเทศ หรือระบบเศรษฐกิจมี
ในขณะเดียวกัน ก็ปรับเปลี่ยนระบบภาษีให้มันช่วยลดความเหลื่อมล้ำต่ำสูง เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ภาษีอัตราก้าวหน้า แล้วก็เพิ่มสวัสดิการสังคมให้คนรู้สึกมั่นคงกับชีวิตมากขึ้น